ประตูมีให้เลือกมากมาย แล้วทำไมต้องใช้ประตูไม้สังเคราะห์?
จะเลือกใช้ประตูห้องสักบาน ไม่รู้ว่าประตูที่มีขายทั่วไปมันมีอะไรบ้าง แต่ละอย่างต่างกันอย่างไร จะเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน แข็งแรง ทนทาน หมดปัญหากวนใจในอนาคต
ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเพียงประตูบานทึบสำหรับห้องทั่วไปเท่านั้น โดยประตูบานทึบโดยทั่วไป แบ่งได้เป็น 2 ประเภท
1. ประตูไม้
2. ประตูโพลีเมอร์
ประตูไม้ WOODEN DOOR
ประตูไม้แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
ประตูไม้จริง โดยใช้แผ่นไม้ตันมาตัดประกอบเป็นบานประตู ประตูชนิดนี้ทำจากไม้ทั้งหมด ไม้ที่นำมาใช้เช่นไม้สัก ไม้เต็ง ไม้แดง ราคาจึงสูง ในปัจจุบันไม้เหล่านนี้หายาก มีราคาแพง ขึ้นอยู่กับไม้ที่นำมาใช้ บานประตูมีน้ำหนักมาก ในปัจจุบันไม้เหล่านี้หายากและต้องนำเข้าเป็นส่วนใหญ่ จึงมักนำไม้ชนิดอื่นมาทำประตูแทน เช่นไม้สยาหรือไม้ยาง ซึ่งมีคุณภาพด้อยกว่าไม้เบญจพรรณทั่วไป ไม่ทนต่อสภาพอากาศ เมื่อใช้ไปจะมีอาการโก่ง โค้งงอ ทำให้ปิดประตูได้ไม่สนิท เหลื่อมออกจากวงกบ แสงลอดผ่านได้ หากติดตั้งภายนอกบ้านหรือในห้องน้ำ อายุการใช้งานจะสั้นลงประมาณ 3-5 ปี
ประตูแผ่นไม้ประกอบ โดยการขึ้นโครงไม้เป็นกรอบ ใส่วัสดุรับแรงด้านในแล้วปิดทั้งสองด้านด้วยแผ่นไม้อัดหรือแผ่นไม้ HDF ซึ่งประตูแผ่นไม้ประกอบนี้เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากราคาถูกกว่าประตูไม้จริงมาก แต่โครงสร้างไม่แข็งแรง ผุพังได้ง่าย ขึ้นกับสภาพแวดล้อมและการใช้งาน หากใช้ภายนอกหรือภายในห้องน้ำ ก็จะผุพัง ได้อย่างรวดเร็ว เพราะแผ่นไม้อัดหรือแผ่นไม้ HDF มีรูพรุนมากทำให้ดูดซึมน้ำได้อย่างดี ซึ่งประตูแผ่นไม้ประกอบนี้ ประกอบด้วยไม้โครง ไม้เสริม แกนภายใน แผ่นไม้อัดหรือแผ่นไม้ HDF และแผ่นลามิเนตโพเมก้า ซึ่งกระบวนการผลิตใช้การประกอบขึ้นโครง เสรืมไม้ ใส่แกนเสริมเพื่อความแข็งแรง ปิดหน้าด้วยด้วยแผ่นไม้อัดปิดผิวด้วยแผ่นโฟเมก้า ซึ่งต้องใช้กาวเป็นตัวประสาน ลักษณะภายนอกของประตูแผ่นไม้ประกอบแต่ละแบบจะเหมือนกัน ต่างกันที่แกนภายใน ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนการผลิตลง ทำให้ราคาของประตูแผ่นไม้ประกอบของแต่ละผู้ผลิตต่างกันมาก
ราคาจะมีตั้งแต่บานละ 500 ถึง 3000 กว่าบาท ประตูไม้อัดที่มีราคาถูก จะใช้วัสดุแกนภายในคุณภาพต่ำ ทำให้บานประตูไม่แข็งแรง ซึ่งผู้ใช้มักไม่ทราบถึงข้อสำคัญนี้ เมื่อนำไปใช้จึงเกิดปัญหาตามมา อายุการใช้งานสั้น ทำไห้ต้องเปลี่ยนใหม่ในที่สุด
ประตูโพลีเมอร์ POLYMER DOOR
ประตูโพลีเมอร์ คือประตูที่ทำมาจากสารโพลีเมอร์ชนิดต่างๆ เช่น PP, PE., HDPE, PVC, UPVC และอื่นๆ แต่ที่นิยมกันคือ ประตูพีวีซี และประตูยูพีวีซี
ประตูพีวีซี PVC DOOR เป็นประตูที่ทำมาจากพีวีซีและสารเติมแต่งชนิดอื่นๆเพื่อเพิ่มคุณสมบัติของพีวีซีให้ดีขึ้นและสามารถนำไปขึ้นรูปได้โดยประตูพีวีซีจะรีดขึ้นรูปตามโมล โดยปกติจะมีความหนาของโครงสร้างของประตู ประมาณ 0.5-1 มม. ซึ่งบางมากไม่แข็งแรงเพียงพอจึงมีการเสริมขอบโดยรอบบานด้วยตัวยคิ้วพีวีซี ซึ่งจะทำให้ขอบของประตูมีสันไม่เรียบเนียนประตูพีวีซีไม่แข็งแรง บาง กรอบ และแตกหักง่าย อายยุการใช้งานสั้นประตูพีวีซีเหมาะกับการใช้งานชั่วคราว หรืองานที่ไม่ต้องการ ความแข็งแรงทนทานหรือความสวยงาม
ประตูยูพีวีซี uPVC DOOR อันที่จริงแล้วประตูยูพีวีซีนั้นก็คือประตูพีวีซีนั่นเองเพียงแต่ วิธีการผลิตประตูต่างกัน ประตูพีวีซีจะใช้การรีดขึ้นรูปเป็นบานประตู แต่ประตูยูพีวีซีจะเป็นประตูประกอบโดยมีโครงสร้างเป็นไม้หรือพีวีซี แล้วมีแกนภายในเป็นโฟมหรือวัสดุอื่นใดเพื่อรับแรง แล้วปิดหน้าบาน ด้วยแผ่นพีวีซีที่ปั้มขึ้นรูปเป็นลายของประตู นำแผ่นพีวีซีที่ได้มาติด ทั้ง 2 ด้านด้วยกาว ประตูยูพีวีซี มีคุณสมบัติที่กันน้ำที่ผิวหน้าได้ดี มีสีในเนื้อวัสดุ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสีขาว ผิวเป็นเงาเป็นมัน ทาสีไม่ได้ มักใช้เป็นบานประตูห้องน้ำหรือประตูภายนอกบ้าน
ประตูยูพีวีซี มีลักษณะเป็นประตูพลาสติก ไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนไม้ ผิวสัมผัสไม่น่าใช้ จึงไม่ค่อยเข้ากับบ้าน ประตูบานทึบที่มีอยู่ในตลาดก็มีข้อจำกัดในการใช้งาน อีกทั้งมีทางเลือกน้อยมาก ส่วนมากจะเลือกใช้เป็นประตูไม้อัดซึ่งก็มีข้อจำกัดอยู่หลายประการ
ประตูแผ่นไม้ประกอบ มีข้อจำกัดทางกายภาพในการใช้งาน เนื่องจากไม้มีความแข็งแรงน้อย ผิวหน้าเป็นไม้อัดหนาเพียง 3-4 มม.จึงรับแรงกระแทกได้ไม่ดี และเมื่อใช้งานไปสักระยะ คุณภาพของไม้จะลดลง ทำให้กรอบและแตกง่ายนอกจากนี้ ไม้อัดไม่สามารถทนความชื้นได้ดี เมื่อสัมผัสน้ำไม้จะดูดซึมน้ำเข้าไป ทำให้มีการบวม พอง ควรใช้เฉพาะภายใน ไม่ควรสัมผัสความเปียกชื้นเป็นเวลานาน
นอกจากนี้คุณภาพของไม้อัด รวมถึงคุณภาพในการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานที่ดีพอ อาจมีการโก่ง โค้ง งอ บิด ได้ เมื่อนำไปใช้งานจึงอาจเกิดปัญหาและ โดยเฉพาะประตูห้องน้ำที่ต้องสัมผัสความชื้นตลอดเวลา หากเลือกใช้เป็นประตู
ไม้อัดก็จะมีอายุการใช้งานที่สั้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็หันไปเลือกใช้เป็นประตู PVC หรือ uPVC แทน แต่ก็ข้อด้อยตรงที่ วัสดุมีความเป็นพลาสติก ผิวสัมผัสไม่น่าใช้ ไม่เข้ากับบ้าน อีกทั้งยังมีความบาง กรอบและแตกหักง่าย ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ประตู
ประตูไม้สังเคราะห์ WPC DOOR เป็นประตูที่ผลิตจากไม้เนื้อแข็งผสมรวมกับพีวีซี ผ่านกระบวนการรีดขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว ทำให้ได้บานประตูที่แข็งแรง ทนทาน กันน้ำได้ และมีผิวสัมผัสเหมือนไม้เพราะได้นำเอาคุณสมบัติที่ดีของทั้งสองวัสดุมารวมกัน ไม้ช่วยให้ผิวสัมผัสดูดีเป็นธรรมชาติขึ้น ส่วนพีวีซีช่วยให้บานประตูมีความแข็งแรง ทนทาน กันน้ำได้ดีจึงสามารถนำบานประตูไม้สังเคราะห์ WPC ไปใช้ได้กับทุกห้อง อายุการใช้งานยาวนาน
เปรียบเทียบประตูพีวีซี กับ ประตูWPC
เห็นได้ชัดว่าประตู WPC นั้นมีความหนามากกว่าประตูพีวีซีมาก โดยขอบบานมีความหนาเรียบและเป็นชิ้นเดียวกัน ซึ่งต่างกับประตูพีวีซีที่มีขอบบางและต้องเสริมขอบทำให้มีรอยต่อไม่สวยงามผิวสัมผัสของประตู WPC มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าประตูพีวีซี นอกจากนี้ประตู WPC ยังสามารถทาสีและทำลายไม้ได้หลากหลาย ซึ่งประตูพีวีซีไม่สามารถทำได้ ประตูไม้สังเคราะห์ WPC จึงเป็นทางเลือกที่ดี ด้วยวัสดุที่ไม่ดูดซับความชื้น โครงสร้างแข็งแรงด้วยการขึ้นรูป เป็นชิ้นเดียว บานมีความหนาเป็นพิเศษ ไม่กรอบ แตกเมื่อถูกแสงแดด และด้วยผิวสัมผัสที่ดีเป็นธรรมชาติ
สามารถทนน้ำและความชื้นได้เป็นอย่างดี ไม่มีบวม พอง หรือขึ้นรา และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับที่เปียกชื้นอย่างเช่นห้องน้ำ ประตูไม้สังเคราะห์ WPC มีความแข็งแรงทนทานและอายุการใช้งานยาวนานกว่าประตูไม้อัดหรือประตู PVC หรือประตู uPVC
ด้วยคุณสมบัติที่ดีของประตูไม้สังเคราะห์ WPC จึงเหมาะที่จะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับงานประตูในอนาคต